DUSIT ลั่นปีนี้เทิร์นอะราวด์จ่อโอนคอนโด1.6หมื่นล้าน
Loading

DUSIT ลั่นปีนี้เทิร์นอะราวด์จ่อโอนคอนโด1.6หมื่นล้าน

วันที่ : 16 มิถุนายน 2568
DUSIT ส่งซิกผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ บุ๊กโอนโครงการที่พักอาศัย “Dusit Residences และ Dusit Parkside” ตุนแบ็กล็อกแล้ว 16,000 ล้านบาท กดภาระดอกเบี้ยจ่ายลด ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้โต 20-25% แตะ 9,000 ล้านบาท เล็งแต่งตัวธุรกิจอาหารเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
   นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2568 จะเทิร์นอะราวด์ (Turnaround) พลิกฟื้นจากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 11,077.48 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 236.77 ล้านบาท โดยจะมาจากการทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการ Dusit Residences และ Dusit Parkside ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”

   โดยปัจจุบันมีโครงการดังกล่าวมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 90% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท มีแผนจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปี 2568 และจะมีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างมีนัยสำคัญในปี 2569 ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่วง Unlock Value ของ DUSIT เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากรายได้ที่รอการรับรู้ดังกล่าว

   สำหรับในปี 2568 คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ระดับ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20-25% จากปีก่อน (ไม่รวมรายได้จากการส่งมอบงานโครงสร้างพื้นที่อาคารค้าปลีกของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค หรือ Bare Shell ซึ่งในปี 2567 มีรายได้ที่ไม่รวม Bare Shell อยู่ที่ 7,400 ล้านบาท) โดยจะเป็นการเติบโตของธุรกิจโรงแรม 20-25%, ธุรกิจอาหาร 10-15%, ธุรกิจการศึกษา 10-12% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 100%

   ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ในปี 2568 จะยังคงใกล้เคียงกับปี 2567 ที่ผ่านมา โดยจะมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม ประมาณ 66-67%, กลุ่มธุรกิจอาหาร ประมาณ 18%, กลุ่มธุรกิจการศึกษา ประมาณ 5% และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 7%

   อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมา DUSIT มีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมเป็นหลักที่กว่า 90% ดังนั้น บริษัทจึงได้มีการวางกลยุทธ์ 9 ปี (ปี 2559-2568) ด้วยการยึดหลัก 3 ด้าน คือ 1.Balance คือการสร้างสมดุลให้กับพอร์ตโฟลิโอ, 2.Expansion การขยายพอร์ตโฟลิโอ และ 3.Diversify คือ การกระจายความเสี่ยง ด้วยการไม่พึ่งพารายได้จากเพียงกลุ่มเดียว

   ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของแผนกลยุทธ์ 9 ปี บริษัทมั่นใจว่า DUSIT จะสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจโรงแรมที่สถานการณ์การเดินทางกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายโรงแรมไปยังจุดหมายปลายทางสำคัญทั่วโลกของ DUSIT ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ

   ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัย มีแผนจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปี 2568 และธุรกิจอาหาร ดำเนินกาาผ่านบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด มีการขยายตัวที่ดี ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับการนำธุรกิจอาหารเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

   นางศุภจี กล่าวอีกว่า บริษัทยังมั่นใจว่าในปี 2568 ภาระดอกเบี้ยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากปลายปีนี้จะมีรายได้จากการโอนโครงการที่อยู่อาศัย ที่จะนำไปคืนหนี้บางส่วน โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้รวม 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ จำนวน 4,000 ล้านบาท (จะครบกำหนดในปี 2569 จำนวน 2,500 ล้านบาท และอีก 1,500 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์) และเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 6,000 ล้านบาท คิดเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมประมาณ 281 ล้านบาท

   ปลดล็อกปัญหางบการเงิน Q1

   ด้านประเด็นเกี่ยวกับงบการเงินไตรมาส 1/2568 ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 มีมติไม่อนุมัติงบการเงินประจำปี 2567 และยังไม่ได้ประชุมในวาระการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี 2568 จนอาจนำไปสู่ปัญหาการนำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 นั้น คณะกรรมการและคณะผู้บริหารของบริษัทก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายครั้ง จนกระทั่งสามารถนำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านการสอบทานแล้วได้ทันตามกำหนดเวลา ทำให้หุ้น DUSIT ไม่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (หยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว) และต่อมาในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของปี 2568 เป็นที่เรียบร้อย

   “การจัดทำและอนุมัติงบการเงินของ DUSIT มีความถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ผู้สอบบัญชีจึงลงนามรับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข และการนำส่งงบการเงินได้ทันตามกำหนดเวลา อีกทั้งสามารถแต่งตั้งผู้สอบบัญชีปี 2568 ได้ ส่งผลให้บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศยกเลิกเครดิตพินิจ แนวโน้ม Negative หรือ ลบที่ให้ไว้แก่อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของบริษัท พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทไว้ที่ระดับ BBB- รวมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (DUSIT22PA) ของบริษัทไว้ที่ระดับ BB ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่” นางศุภจี กล่าว

   นอกจากนี้ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท จะมีการหารือว่าจะมีการเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อรับรองงบไตรมาส 1/2568 หรือไม่อย่างไร และถ้าประชุมจะเป็นเมื่อไร ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งของผู้ถือหุ้นนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง วันนี้ต้องการออกมาสร้างมั่นใจว่าธุรกิจยังคงดำเนินการต่อไปตามแผนที่วางไว้

   ส่วนปี 2569 หลังจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่พักอาศัยโครงการ Dusit Residences และ Dusit Parkside  บริษัทจะสามารถลดภาระหนี้สิน ทำให้ต้นทุนการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ธุรกิจอาหาร และธุรกิจการศึกษา จะเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญในการสร้างการเติบโตนอกเหนือจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ